คุณสมบัติของไม้ที่เกี่ยวข้องกับงานก่อสร้าง

 คุณสมบัติของไม้แต่ละชนิดที่เกี่ยวข้องกับงานก่อสร้าง ถูกแบ่งออกเป็น 3 ประเภท โดยถือเอาค่าความแข็งแรงในการตัดของไม้แห้ง และความทนทานตามธรรมชาติของไม้นั้นๆ

1. ไม้เนื้อแข็ง - มีความแข็งแรงสูงประมาณ 1,000 กก./ลบ.ม. มีความทนทานสูง มีหลายชนิด เช่น ไม้เต็ง ไม้รัง ไม้แดง ไม้มะค่าโมง ไม้มะเกลือ

2. ไม้เนื้อแข็งปานกลาง - เป็นไม้ที่มีความแข็งแรง 600 ถึง 1,000 กก./ลบ.ม. มีความทนทานของเนื้อไม้ ไม้ประเภทนี้ได้แก่ ไม้ยูง ไม้ตะแบก ไม้ตะเคียนทอง

3. ไม้เนื้ออ่อน - เป็นไม้ที่มีความแข็งแรงเฉลี่ยต่ำกว่า 600 กก./ลบ.ม. ได้แก่ ไม้ยางแดง ไม้พะยอม ไม้กวาด

รู้จักกับไม้ยางพารา

     คุณสมบัติในด้านต่างๆ ของไม้ยางพารานั้น แทบไม่แตกต่างจากไม้สักที่เรานิยมนำมาสร้างบ้าน หรือใช้เป็นเฟอร์นิเจอร์เลย จึงทำให้ไม้ยางพารามีชื่อเรียกอีกชื่อหนึ่งว่า “สักขาว” เนื่องจากลวดลายของไม้ที่มีความสวยงามเป็นเอกลักษณ์ และเนื้อไม้ที่มีสีขาวนวล แต่ไม้ยางพาราก็มีจุดด้อยคือ สามารถเกิดเชื้อราได้ง่ายและมอดชอบกินเนื้อไม้ ซึ่งก็เป็นเพราะการที่ไม้ยางพาราสามารถดูดความชื้นได้มากและมีแป้งซึ่งเป็นอาหารของมอดอยู่ในเนื้อไม้เป็นจำนวนมากนั่นเอง 

   แต่ถ้าหากเรานำไม้ยางพาราไปผ่านกระบวนการป้องกันเชื้อราและมอดอย่างถูกวิธีแล้วหละก็ไม้ยางพาราก็จะมีความคงทนแข็งแรงไม่ต่างจากไม้สัก โดยข้อมูลของกรมป่าไม้พบว่าไม้ยางพาราถูกจัดให้อยู่ในกลุ่มไม้เนื้อแข็งปานกลาง มีความแข็งแรงในการดัดอยู่ที่ 973 กก./ซม.2 เนื้อไม้ค่อนข้างหยาบสามารถไสกบเพื่อตกแต่งได้ง่าย ตอกตะปูง่าย เหมาะสำหรับใช้ในงานก่อสร้างที่ไม่ต้องใช้รับน้ำหนัก นิยมใช้ทำฝ้าภายนอก หรือที่เรียกว่ากระทงหรือเคร่าฝ้า และ ทำไม้พื้นภายในบ้าน

อ่านต่อได้ใน https://www.oie.go.th

ประโยชน์ของการสร้างบ้านด้วยไม้

ประโยชน์ของการสร้างบ้านด้วยไม้

บ้านไม้เป็นที่นิยมมายาวนาน ด้วยเสน่ห์และคุณสมบัติที่โดดเด่น ดังนี้

1. กลมกลืนกับธรรมชาติ: ไม้เป็นวัสดุธรรมชาติ ให้ความรู้สึกอบอุ่น ผ่อนคลาย สัมผัสได้ถึงกลิ่นและลายไม้ที่เป็นเอกลักษณ์ เหมาะกับผู้ที่รักธรรมชาติ ต้องการใกล้ชิดธรรมชาติ

2. เย็นสบาย ไม่อบอ้าว: ไม้มีคุณสมบัติถ่ายเทความร้อนได้ดี ช่วยให้บ้านเย็นสบายในช่วงกลางวัน โดยไม่ต้องพึ่งเครื่องปรับอากาศประหยัดพลังงาน เหมาะกับสภาพอากาศร้อนชื้นแบบประเทศไทย

3. แข็งแรงทนทาน: บ้านไม้ที่เลือกไม้เนื้อแข็งและก่อสร้างอย่างถูกต้อง จะมีความแข็งแรงทนทาน ยืดหยุ่นสูง ทนต่อแรงสั่นสะเทือน เหมาะกับพื้นที่เสี่ยงแผ่นดินไหว

4. สวยงามเป็นธรรมชาติ: ไม้มีลวดลายและสีสันที่หลากหลาย ขึ้นอยู่กับชนิดของไม้ เหมาะกับการตกแต่งบ้านสไตล์ต่างๆ เพิ่มความสวยงามเป็นธรรมชาติให้กับบ้าน

5. ปรับเปลี่ยนง่าย: บ้านไม้สามารถปรับเปลี่ยน ก่อสร้างต่อเติมได้ง่าย โดยไม่ต้องรื้อถอนโครงสร้างทั้งหมด เหมาะกับครอบครัวที่กำลังเติบโต ต้องการพื้นที่เพิ่ม

6. รักษ์โลก: ไม้เป็นวัสดุจากธรรมชาติ ย่อยสลายได้ ไม่ก่อมลพิษ เหมาะกับยุคสมัยที่ให้ความสำคัญกับสิ่งแวดล้อม

7. สุขภาพดี: การอาศัยอยู่ในบ้านไม้ ช่วยให้รู้สึกผ่อนคลาย ลดความเครียด สร้างบรรยากาศที่ดีต่อสุขภาพ

8. ราคาประหยัด:  เมื่อเทียบกับวัสดุอย่างเหล็กและคอนกรีต

อย่างไรก็ตาม การสร้างบ้านไม้ก็มีข้อเสียที่ควรพิจารณา เช่น ต้องการการดูแลรักษาเป็นประจำ ป้องกันปลวก มอด แมลง และความชื้น

โดยสรุป การสร้างบ้านไม้มีข้อดีหลายประการ เหมาะกับผู้ที่รักธรรมชาติ ต้องการบ้านที่เย็นสบาย แข็งแรง สวยงาม เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม  แต่ควรศึกษาข้อมูล เลือกประเภทไม้ที่เหมาะสม และปรึกษาผู้เชี่ยวชาญก่อนตัดสินใจ